ทัวร์อินเดียใต้ : ท่องวัฒนธรรมทมิฬนาฑู 8 วัน บิน TG
ทัวร์อินเดียใต้ ท่องวัฒนธรรมทมิฬนาฑู แบบวัฒนธรรมของเอเชียตะวันออก ไทย กัมพูชา บาหลี มอญ พม่า ชมเทวาลัยใหญ่โตแกะลายสลักเสลาสวยงามน่าทึ่ง ด้วยความยิ่งใหญ่อลังการท่านจะตื่นตาตื่นใจและมองย้อนกลับไปถึงวัฒนธรรมรอบตัวที่เราคุ้นเคยอย่างไม่น่าเชื่อ เที่ยวชมทัวร์อินเดียใต้ -ทมิฬนาฑู ฟังบรรยายตลอดทริปโดยอาจารย์วิทยากรด้านโบราณคดีสอดแทรกเนื้อหาประวัติศาสตร์ศิลป์ จากที่ดูแล้วเห็นว่าสวยแต่ไม่เข้าใจ ทริปนี้ได้เที่ยวชม เห็นกระจ่าง เพลิดเพลินคุ้มค่ากว่าไปเที่ยวเองเป็นไหนๆ
ทัวร์อินเดียใต้ ·เมืองมรดกโลกมหาบาลีปุรัม : รากเหง้าวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทัวร์อินเดียใต้ ·เทวาลัยไกลาสนาถแห่งกาญจีปุรัม : เลอเลิศด้วยงานแกะสลักสุดวิจิตร
ทัวร์อินเดียใต้ ·เทวาลัยมีนักษีสุนทเรศวร : เทวาลัยทั้งสี่ทวารยิ่งใหญ่ สูงตระหง่าน สง่างามมาก
ทัวร์อินเดียใต้ ·เทวาลัยพฤหธิศวร : เทวาลัยหินแกรนิตที่สวยสมบูรณ์ที่สุดในโลก
ทัวร์อินเดียใต้ ·ศาสนธานีศรีรังคาม : เทวาลัยฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ทัวร์อินเดียใต้ ·บรรยายตลอดทริปโดยอาจารย์โบราณคดีศิลปากร
ทัวร์อินเดียใต้ ·มีอาหารไทยเสริมให้ตลอดทริป เป็นที่ถูกใจสำหรับผู้ไม่คุ้นเคยอาหารอินเดีย
เดินทาง : จัดเป็นกรุ๊ปเหมา กำหนดวันที่เดินทางได้เลย
โปรแกรมการเดินทาง อินเดียใต้
ทัวร์อินเดียใต้
วันแรก สุวรรณภูมิ-เจนไน
ทัวร์อินเดียใต้
วันที่สอง เจนไน-กาญจีปุรัม-มหาบาลีปุรัม
ทัวร์อินเดียใต้
วันที่สาม มหาบาลีปุรัม – พูดุชเชอรี
ทัวร์อินเดียใต้
วันที่สี่ พูดุชเชอรี่ -จิตัมพรัม-ตันจาวูร์
ทัวร์อินเดียใต้
วันที่ห้า ตันจาวูร์
ทัวร์อินเดียใต้
วันที่หก ตันจาวูร์-ติรุชชิรัปปัลลิ – มธุไร
ทัวร์อินเดียใต้
วันที่เจ็ด มธุไร-สนามบิน
ทัวร์อินเดียใต้
วันที่แปด สุวรรณภูมิ
เดินทาง : จัดเป็นกรุ๊ปเหมา กำหนดวันที่เดินทางได้เลย
อาจารย์ปติสร เพ็ญสุต
วิทยากรพิเศษ ทัวร์อินเดียใต้ จบปริญญาเอกจากคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
ประสบการณ์
- อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
- อาจารย์พิเศษวิชาไทยศึกษามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ผลงาน
หนังสือ คริสตศิลป์กระจกสี โบสถ์คริสต์ในไทย
- บรรยายทริปท่องประวัติศาตร์ไทย เส้นทาง อยุธยา สุโขทัย เพชรบุรี พระประแดง
- บรรยายทริปนครวัด-นครธม ปราสาทในเขตพระนคร
ข้อมูลที่เที่ยวน่าสนใจในโปรแกรม ทัวร์อินเดียใต้
ทัวร์อินเดียใต้ ที่เป็นเส้นทางฮอตฮิตและกล่าวขวัญถึงจะอยู่ในรัฐทมิฬนาฑู เนื่องจากจะมีความหลากหลายทั้งด้านภูมิประเทศ ศิลปะและวัฒนธรรม อีกทั้งยังร่ำรวยด้านประวัติศาสตร์ความเชื่อของคนที่นี่ สิ่งที่เป็นความคิดความเชื่อของคนอินเดียใต้ได้ถ่ายทอดออกมาทางศิลปะ ศาสนา สิ่งปลูกสร้างอันยิ่งใหญ่ เรามาดูว่าสถานที่เหล่านี้น่าสนใจเพียงใดจนท่านตั้งตัดสินใจแพคกระเป๋าเดินทางไปทัวร์อินเดียใต้กับบีเจอร์นีไลฟ์และอาจารย์วิทยกรผู้ทรงคุณวุฒิในแบบ เที่ยวสบาย บรรยายสนุก สไตล์บีเจอร์นีไลฟ์ทราเวล
กาญจีปุรัม(Kanchipuram)
เมืองโบราณเก่าแก่อายุกว่า 1,300 ปี ถือได้ว่าเป็นดังเมืองทอง หรือ เมืองศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 7 แห่งของฮินดู เคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ปัลลวะ เหล่านักแสวงบุญชาวฮินดูทั้งหลายจะเดินทางมายังเมืองนี้และอาศัยจนกระทั่งก่อสร้างศาสนสถานเอาไว้ที่เมืองนี้มากมาย นอกจากเรื่องศาสนาแล้วเมืองนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องผ้าไหมอีกด้วย ดังนั้นท่านที่เดินทางมากับ ทัวร์อินเดียใต้ เมื่อเข้าสู่กาญจีปุรัมก็อาจอดใจไม่ไหวต้องหาซื้อผ้าไหมอินเดียมาแต่งกายให้เข้ากับบรรยากาศ
- เทวลัยไกลาสนาถ (Kailasanatha Temple)
สร้างถวายแต่องค์พระอิศวร ซึ่งงดงามด้วยงานแกะสลักหิน - เทวาลัยเอกัมพเรศวร (Ekambareshvara Temple) ซึ่งมีศิวลึงก์ทำด้วยดิน ที่ชาวฮินดูถือพระศิวะ หรือไศวะนิกายต้องจาริกมาบูชา ภายในบริเวณเทวลัย มีต้นมะม่วงอายุราว 3,000 ปี
- เทวาลัยไวกูณฐเปรุมาล (Vaikuntha Perumal Temple) สร้างถวายพระวิษณุ ภายในมีรูปปั้นพระวิษณุปางยืน นั่ง และนอน ไม่มีในที่อื่น
มหาบาลีปุรัม (Mahabalipuram)
เรียกอีกอย่างว่าเมืองมามัลละปุรัม ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าทางการค้าของราชวงศ์ปัลลวะ และชื่อมามัลละปุรัม มาจากคำว่า Maha-Malla แปลว่า นักมวยปล้ำที่ยิ่งใหญ่ สืบเนื่องจากกีฬามวยปล้ำเป็นกีฬายอดนิยมในสมัยนั้น ซึ่งเป็นฉายาของพระเจ้านรสิงห์วรมันที่ 1หลังจากได้ครองราชย์และได้ขยายอำนาจครอบคลุมบริเวณดินแดนแถบนี้ และส่งอิทธิพลของศิลปะปัลลวะไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น กัมพูชา เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย สิ่งก่อสร้างที่ปัจจุบันที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในบริเวณเมืองนี้ สร้างขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 7-9
![ทัวร์อินเดียใต้](https://www.beejourneylife.com/wp-content/uploads/2022/07/Tamilnadu_BeeJourney1100-005-300x200.jpg)
ทัวร์อินเดียใต้
เทวาลัยชอร์ (Shore Temple)
เทวาลัยชอร์ (Shore Temple) ตั้งอยู่ริมทะเลติดชายหาด สร้างถวายพระวิษณุและพระศิวะ ในสมัยพระเจ้านรสิงห์วรมันที่2 ระหว่างปีค.ศ.700-728 เทวาลัยสร้างจากหินแกรนิตที่ถูกตัดเป็นก้อน ๆ แล้วนำมาประกอบขึ้นเป็นตัวเทวาลัย จากนั้นแกะสลักเป็นรูปต่าง ๆ ด้วยฝีมือของช่างอินเดียใต้ พบมีการจารึกไว้ในศิลามีชื่อเรียกเทวาลัยแห่งนี้ว่า “ราชสิงเหศวร”
งานแกะสลักหน้าผาภกิรถะ (Bhagiratha’s Pennance) หรือหน้าผาอชุณา Ajuna’s Penance เป็นภาพแกะสลักนูนต่ำบนหน้าผา ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 มีความยาวประมาณ 32 เมตรและสูงประมาณ 14 เมตร บรรยายเกี่ยวกับตำนานของแม่น้ำคงคาไหลมาจากสวรรค์สู่มนุษย์โลก ในหน้าฝนน้ำที่ไหลบ่าผ่านหน้าผาแห่งนี้ เปรียบเสมือนน้ำจากแม่น้ำคงคาไหลลงสู่แม่น้ำเบื้องล่างและภาพแกะสลักของมหากาพย์ภารตะ
พิพิธภัณฑ์โบราณคดี (Archaeological Museum) ภายในพิพิธภัณฑ์ได้รวบรวมงานแกะสลักที่งดงามของช่างฝีมือในสมัยราชวงศ์ปัลลวะ ที่ขุดพบในบริเวณพื้นที่เมือง
เมืองพูดุชเชอรี่ (Puducherry)
อดีตเมืองท่าและเมืองอาณานิคมของฝรั่งเศสในอินเดีย พูดุชเชอรี่ มาจากคำว่า ปูตูเจอริ Puducheri ในภาษาทมิฬ แปลว่า เมืองใหม่ เคยเป็นที่ตั้งของสถานีการค้าและเขตอาณานิคมของฝรั่งเศส และมีหลักฐานยืนยันได้ว่าที่นี่เคยเป็นแหล่งติดต่อทางการค้ากับโรมันตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 1สินค้าก็เป็นจำพวกเส้นไหมสำหรับทอผ้า เครื่องดินเผา และ อัญมณีต่าง ๆ ปัจจุบันที่ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาและเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของอินเดียใต้ ตึกรามบ้านช่องในพูดุชเชอรี่ได้รับอิทธิพลของฝรั่งเศสมาก ทำให้สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ออกมาในสไตล์โคโลเนียน Colonial หรือยุคอาณานิคมเช่น โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิค อนุสาวรีย์ต่าง ๆ ในทัวร์อินเดียใต้ นี้จะพาท่านเดินเล่นชมเมืองถ่ายรูปเก๋ๆ ในมุมต่างๆ อย่างสนุกสนาน หลังจากเที่ยวชมโบราณสถานในวันก่อนหน้านี้มาเยอะแล้ว
เมืองจีตัมพรัม (Chidambaram)
หนึ่งในเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของอินเดีย มีศาลบูชาพระศิวะเล็กอยู่บริเวณคุ้งของแอ่งน้ำนี้ ซึ่งฤาษีวยักราปตะและปทันจรี ได้มาขอพรด้วยการบำเพ็ญตบะที่ศาลแห่งนี้ ปัจจุบันเรียกว่า ติรุโมลานัฎฐา Tirumoolanathar ซึ่งยังผลให้พระศิวะในภาคศิวนาฏราชปรากฏกายและร่ายรำต่อหน้าเทพทั้งสอง ต่อมาได้สร้างโรงระบำที่หลังคาปิดด้วยแผ่นทองคำเปลวครอบบริเวณที่พระศิวะปรากฏ
- เทวาลัยจิตรัมพรัม หรือ เทวาลัยนาฏราช (Nataraja Temple) ซึ่งตั้งอยู่กลางใจเมือง สร้างโดยราชวงศ์โจฬะในศตวรรษที่ 9 เพื่อถวายแด่พระศิวนาฏราช เทพแห่งการฟ้อนรำ อาคารหลังคาทองคำที่ประดิษฐานรูปพระศิวะซึ่งเชื่อว่าเป็นบริเวณที่พระศิวะปรากฏกาย สร้างโดยพระเจ้าเจตวรมัน สุนทรา ปัณฑยะ แห่งราชวงศ์ปัณฑยะ ซึ่งปกครองในระหว่างปีค.ศ.1251-1272 เพื่อถวายพระศิวะและเป็นอนุสรณ์แห่งความสำเร็จในการครองราชย์ของพระองค์ด้วย เทวาลัยมีโคปุระขนาดสูงใหญ่ ซึ่งโคปุระด้านตะวันออกจะจำลักเป็นรูปท่าร่ายรำ 108 ท่าของพระศิวะ อันเป็นที่มาของท่วงท่าการร่ายรำของนาฏศิลป์ภารตนาฏยัม อันเป็นศิลปะชั้นสูงของอินเดีย ภายในจะมีสถานที่สำหรับทำพิธีสวมมงกุฎของราชวงศ์โจฬะ และด้านนอกเทวาลัยมีราชรถที่ใช้ประกอบพิธีทางศาสนาที่แกะสลักอย่างสวยงามและเก่าแก่จอดเรียงอยู่ด้วย
ตัญชาวูร์ (Thanjavur)
เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นราชธานีแห่งโจละและได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกถึงสองครั้ง นั่นคือปี 1987 ประกาศให้เทวาลัยพฤหธิศวรแห่งเมืองตัญชาวูร์เป็นมรดกโลก และในปี 2004 ประกาศซ้ำใหม่อีกครั้งให้ เป็น “มหาเทวาลัยโจฬะที่มีชีวิต (Great Living Chola Temples) ร่วมกับเทวาลัยกังไกโกณฑะโจฬะปุรัม และ เทวาลัยทาราสุรัม
- เทวาลัยคงไคกอนดาโจฬิศวาระ (Gangaikondacholisvara) หรือ เทวาลัยคงไคกอนดาโจฬะปุราม Gangaikondacholopuram สร้างโดยพระเจ้าราเชนทรา ที่ 1 (พระโอรสของพระเจ้า ราชาราชาโจฬะ) เพื่อถวายแด่พระศิวะในช่วงต้นศตวรรษที่ 11 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเทวาลัยของพระศิวะ Shivalingam ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียตอนใต้ ประตูทางเข้าขนาดใหญ่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ถูกประดับประดาด้วยภาพและลวดลายที่งดงามของสราวตีเทวี ภายห้องบูชาขนาดใหญ่ที่สร้างครอบศิวลึงค์ที่สูง 4 เมตรและมีห้องบูชารโหฐานสำหรับเหล่าราชนิกูลของราชวงศ์แยกต่างหาก ขณะที่โครงสร้างทางสถาปัตยกรรมถูกออกแบบเป็นยอด 9 ชั้น สูง 185 เมตร โดยได้รับอิทธิพลทางศิลปะจากเทวาลัยภริหดิศวระ ที่เมืองธันชาวูร์ เทวาลัยแห่งนี้ยังได้เป็นมรดกโลก UNESCO World Heritage site
- เทวาลัยไอราเตศวาระ (Airadeshwara) ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลดาราสุราม ห่างจากเมืองกุมพะโกนัมประมาณ 4 กม.มาทางทิศตะวันตก ไอราเตศวาระ นั้นมาจาก ไอราวัต ชื่อของช้างเผือกศักดิ์สิทธิ์ เทวาลัยสร้างในสมัยพระราชา ราชาโจฬะที่ 2 ครองราชย์ในระหว่างปีค.ศ.1146-63 เทวาลัยถูกจัดให้เป็นตัวอย่างงานสถาปัตยกรรมดีเลิศของราชวงศ์โจฬะ ในช่วงปีศตวรรษที่ 12 และผลงานแกะสลักจำนวนมากถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังธันชาวูย์ ซึ่งเทวาลัยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของ “เหล่าเทวาลัยของราชวงศ์โจฬะที่ยิ่งใหญ่ The Great Living Chola Temples
- พิพิธภัณฑ์ราชาราชาโจฬะ (Rajaraja Chola Museum and Art Gallery) พิพิธภัณฑ์ที่สร้างเพื่อฉลองการครบรอบพันปีของกษัตริย์ราชาโจฬะ (Rajaraja Chola) มหาราชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของราชวงศ์โจฬะ ผู้ปูทางแห่งความเป็นมหาอำนาจในอินเดียตอนใต้ให้สามารถดำรงอยู่อย่างมั่นคงได้ถึง 2 ศตวรรษ ภายในประกอบด้วยรูปสลักหินของเหล่าเทพเจ้าของชาวฮินดู เช่น เทพโยคะ ทักษิณามูรติ Yoga Daksinamoorthy, พระศิวะนาฏราช (Nataraja), เทพเชษฐา (Jyestha), เทพคชาลักษมี (Gajalakshmi), พระวิษณุ (Vishnu), พระพรหม (Brahma), เทพวินายก (Vinayaka) หรือพระพิฆเนศ, สุริยเทพ (Surya) โคนันทิ (Nandi) และพระโคของพระอิศวร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายเกี่ยวกับราชวงศ์โจฬะ เช่น ผังและแผนที่ทางประวัติศาสตร์ของราชวงศ์เป็นต้น
เทวาลัยพฤหธิศวร (Brihadishwarar Temple) สร้างโดยราชวงศ์โจฬะ เสร็จในปีค.ศ.1010 เป็นเทวาลัยที่ทำจากหินแกรนิตที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งแรกของโลก เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมที่แสดงถึงความรุ่งเรืองสูงสุดของราชวงศ์โจฬะ โดยพระเจ้าราชราชา โจฬะ ที่ 1 หรือพระเจ้าอรุณโมษหิวรมัน เป็นองค์ราชูปถัมป์ และเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สวยงามที่สุดของอินเดีย และได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดย UNESCO โดยเป็นส่วนหนึ่งของ “เหล่าเทวาลัยของโจฬะที่ยิ่งใหญ่ Great Living Chola Temple” ยอดเทวาลัยหรือวิมานะซ้อนลดหลั่น 13 ชั้น มีความสูง 66 เมตร ซึ่งเป็นวิมานะ ที่สูงที่สุดในโลกเช่นกัน บนยอดสุดของวิมานะแกะจากหินแกรนิตเป็นรูปแปดเหลี่ยม หนัก 80 ตัน ภายในเทวาลัยมีศิวลึงก์ประดิษฐานอยู่ มีรูปสลักของโคนันทิที่แกะจากหินก้อนเดียว และตัวเทวาลัยประดับประดาด้วยรูปแกะสลักเป็นของเทพเทวีมากมาย
![ทัวร์อินเดียใต้](https://www.beejourneylife.com/wp-content/uploads/2022/07/Tamilnadu_BeeJourney1100-001-300x200.jpg)
ทัวร์อินเดียใต้
เทวาลัยพฤหธิศวร (Brihadishwarar Temple)
เมืองติรุชชิรัปปัลลิ (Thiruchirapalli)
เรียกอีกชื่อว่า ติรุจี Tiruchi หรือตรีชี Trichy เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐทมิฬนาฑู ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจละตอนต้น ในช่วงระหว่าง 300 ปีก่อนคริสตกาลจนถึงศตวรรษที่ 3 ต่อมาก็อยู่ในการปกครองของกษัตริย์แห่งราชวงศ์ปัลวะในศตวรรษที่ 8 และถูกปกครองโดยราชวงศ์ปัณฑยะในศตวรรษที่ 12-13 ก่อนที่ราชวงศ์วิชัยนครจะเข้ามาปกครองระหว่างปีค.ศ.1311-1378
- เทวาลัยศรีรังคนาถสวามี (Sri Rangnathaswamy Temple) สร้างถวายพระวิษณุ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเทวาลัยฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในเทวาลัยที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในอินเดียใต้ มีการบูรณะเรื่อยมาในรอบ 400 ปี ราชวงศ์ณายกะบูรณะในศตวรรษที่ 17 มีโคปุระขนาดใหญ่ 21 แห่ง และโคปุระที่สูงที่สุด สูง 73 เมตร ชมมณฑปที่มีเสาค้ำยันหนึ่งพันต้น และรูปแกะสลักงดงามมากมาย
- เทวาลัยศรี ชุมพูเกศวาระ (Sri Jumbukeshwara Temple) เป็นเทวาลัย 1 ใน 5 ธาตุของพระศิวะ (เทวาลัยธาตุทั้ง 5 ของพระศิวะ ได้แก่ เทวาลัยชุมพูเกศวาระ (ธาตุน้ำ) เทวาลัยอันนามาลัยยาร์ (ธาตุไฟ) เทวาลัยศรีกาลสติ (ธาตุลม) เทวาลัยธยกราชา (ธาตุดิน) เทวาลัยเอกัมพเรสวาระ (ธาตุดิน) และเทวาลัยนาฎราชาร์ (ท้องฟ้า) เทวาลัยแห่งนี้สร้างถวายพระศิวะ พระอุมา และ ธาตุน้ำแห่งพระศิวะ
![ทัวร์อินเดียใต้](https://www.beejourneylife.com/wp-content/uploads/2022/07/Sri_Rangnathaswamy_Thiruchirapalli_m-300x200.jpg)
![ทัวร์อินเดียใต้](https://www.beejourneylife.com/wp-content/uploads/2022/07/Tamilnadu_BeeJourney1100-007-1-300x207.jpg)
ทัวร์อินเดียใต้
เทวาลัยศรีรังคนาถสวามี
(Sri Rangnathaswamy Temple)
ทัวร์อินเดียใต้
ชาวทมิฬนาฑุ มีการสวมใส่เสื้อผ้าที่เรียบง่าย บางเบา มีภาษาพูดเป็นของตนเอง
เมืองมธุไร(Madurai)
เมืองแห่งเทวาลัยอันยิ่งใหญ่ของอินเดียใต้ เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองด้วยศิลปะแห่งรัฐทมิฬนาฑู ซึ่งเก่าแก่กว่า 2,000 ปี เคยเป็นราชธานีของราชวงศ์ปัณฑยะในช่วงศตวรรษที่ 7-13 และร่ำรวยจากการค้าทางทะเลกับโรมและจีน ต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรวิชัยนครและเป็นราชธานีของณายกะในช่วงศตวรรษที่ 16-17
![ทัวร์อินเดียใต้](https://www.beejourneylife.com/wp-content/uploads/2022/07/Tamilnadu_BeeJourney1100-004-300x200.jpg)
ทัวร์อินเดียใต้
เทวาลัยมีนักษีสุนทเรศวร
(Meenakshi Sundareswarar Temple)
เทวาลัยมีนักษีสุนทเรศวร (Meenakshi Sundareswarar Temple)
เป็นเทวาลัยขนาดมหึมา โคปุระ (ทางเข้า) ทั้ง 4 ทิศสูงถึง 50 เมตร ประดับประดาด้วยรูปปั้นเหล่าเทพเจ้าจนถึงยอด เสาประดับระเบียงทางเดินสู่ที่ประดิษฐานรูปเคารพของพระลักษมีและสุนทเรศวร (พระผู้ทรงมีสิริโฉมโสภา) แกะสลักอย่างงดงามอลังการ ภายในมีสระน้ำขนาดใหญ่ สำหรับทำพิธีทางศาสนามีศาลาพันเสา และรูปสลักงดงามนับไม่ถ้วน ซึ่งในห้องที่ประดิษฐานรูปเคารพชั้นในอนุญาตให้เข้าเฉพาะคนที่นับถือฮินดูเท่านั้น
พระราชวังทิรูมาลัย นายากา (Thirumalai Nayaga Palace) ซึ่งสร้างโดยราชวงศ์ณายกะในปีค.ศ.1636 ชมร่องรอยความโอ่อ่าอลังการของพระราชวัง อาทิ ราชบัลลังก์ ห้องรับรอง