ทะเลสาบฮุฟสกุล ไข่มุกสีน้ำเงินแห่งมองโกเลีย
ทะเลสาบฮุฟสกุลตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมองโกเลีย ใกล้ชายแดนรัสเซีย อยู่ที่ปลายสุดทางใต้ของระบบรอยเลื่อนไบคาล ทำให้เป็นทะเลสาบที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก โดยเกิดจากแรงทางธรณีวิทยาเดียวกันที่สร้างทะเลสาบไบคาล ซึ่งเป็น “ทะเลสาบพี่น้อง” ซึ่งทะเลสาบไบคาลเก่าแก่และใหญ่กว่าฮุฟสกุล โดยคาดว่าทะเลสาบฮุฟสกุลเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อ 2 ถึง 5 ล้านปีก่อน ในขณะที่ทะเลสาบไบคาลเกิดจากแนวรอยเลื่อนไบคาล ซึ่งเปลือกโลกค่อยๆ แยกออกจากกัน กระบวนการนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 25 ถึง 30 ล้านปีที่แล้ว ในช่วงยุคโอลิโกซีนและไมโอซีน การทรุดตัวทำให้แผ่นดินยุบตัวลง ก่อตัวเป็นแอ่งลึกที่ในที่สุดก็เต็มไปด้วยน้ำ กลายเป็นทะเลสาบไบคาล

ทะเลสาบฮุฟสกุล อยู่ทางใต้ของทะเลสาบใบคาล โดยทะเลสาบฮุฟสกุลอยู่ในเขตของประเทศมองโกเลีย
และทะเลสาบไบคาลอยู่ในประเทศรัสเซีย
ทะเลสาบฮุฟสกุลมีลักษณะทางธรณีวิทยาที่เกิดจากหุบเขาทรุด (Rift Valley) ตั้งอยู่ในแอ่งยุบตัว (grabens) ที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบรอยเลื่อนไบคาลทางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเกิดจากการชนกันระหว่างทวีปยูเรเซียและอนุทวีปอินเดีย ทะเลสาบฮุฟสกุลล้อมรอบด้วยเทือกเขาหลายแห่ง ได้แก่ เทือกเขา Khoridol Saridag และ Bayan ทางตะวันตก และเทือกเขา Munkh Saridag ทางเหนือ ซึ่งมีความสูงถึง 3000-3400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีลักษณะหินและพื้นผิวทางธรณีวิทยาของแอ่งทะเลสาบประกอบด้วย
- หินโดโลไมต์ยุคดีโวเนียน ทางด้านตะวันตกของทะเลสาบ
- ตะกอนภูเขาไฟยุคซีโนโซอิก ทางด้านตะวันออก
- หินคาร์บอเนต (หินปูน, โดโลไมต์) ที่มีแหล่งสะสมฟอสฟอไรต์ยุค Vendian-Early Cambrian ทางใต้และตะวันตกเฉียงใต้ของลุ่มน้ำ
- มีพื้นที่ขนาดเล็กของหินอัลคาไลน์และหินบะซอลต์โอลิวีนกึ่งอัลคาไลน์ยุคพาเลโอโซอิก
- หิน Ophiolites ยุค Late Riphean, ตะกอน Igneous Turbidite ยุค Vendian-Early Paleozoic และหินแกรนิตอยด์ยุคพาเลโอโซอิก ตามแนวชายฝั่งทางเหนือและใต้
- ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือประกอบด้วยตะกอนที่เกี่ยวข้องกับยุคพรีแคมเบรียนตอนต้น และยุค Late Riphean-Early Paleozoic เช่น หินแกรนิตอยด์
องค์ประกอบทางเคมีของน้ำในทะเลสาบฮุฟสกุลมีลักษณะเป็นน้ำจืดและมีค่าความเป็นด่างสูงเนื่องจากมีชั้นหินตะกอนโดโลไมต์จำนวนมากในแอ่ง มีความเข้มข้นของฟอสฟอรัสด้วย
สัตว์และสิ่งมีชีวิตในและรอบทะเลสาบฮุฟสกุล
ทะเลสาบฮุฟสกุลเป็นที่อยู่อาศัยของปลา 9 ชนิด รวมถึง Omul, Lenok, Umber, Siberian roach, Eurasian perch, Sturgeon, Taimen, Hovsgol grayling (เป็นสัตว์เฉพาะถิ่นและใกล้สูญพันธุ์) และ Burbot ทะเลสาบยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในน้ำและพืชน้ำหลากหลายชนิด
สัตว์รอบอุทยานแห่งชาติทะเลสาบฮุฟสกุล (สัตว์ป่าบก) ล้อมรอบมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและนกหลากหลายชนิด สัตว์ที่น่าสนใจได้แก่
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม Ibex, Argali wild sheep, Elk (Moose), Wolf, Wolverine, Musk deer, Brown bear, Siberian moose, Sable, Lynx, Red deer, Siberian roe deer, Wild boar, Marmots และอาจมีเสือดาวหิมะ (หายากและลึกลับ)
มีนกมากกว่า 200 ชนิดที่บันทึกไว้ รวมถึงนกน้ำอพยพ เช่น Baikal teal, Bar-headed goose, Black stork, Altai snowcock, หงส์, นกกระเรียน, นกอินทรี, เหยี่ยว และนกเป็ดน้ำและนกขับร้องต่างๆ
การผสมผสานของระบบนิเวศ ภูมิภาคนี้เป็นเขตเปลี่ยนผ่านระหว่างทุ่งหญ้าสเตปป์เอเชียกลางและป่าไทก้าไซบีเรีย ซึ่ง contributes to the biodiversity ซึ่งอาจพบสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงโดยชาวมองโกเลียที่เลี้ยงเร่ร่อน เช่น กวางเรนเดียร์ (โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับชาว Tsaatan), จามรี, วัว, แกะ และแพะ

กวางเรนเดียร์ ที่เลี้ยงโดยชาวพื้นเมือง ซาร์ตันบริเวณ ทะเลสาบฮุฟสกุล

ชาวซาร์ตัน เป็นชนพื้นเมืองเร่ร่อน (Nomadic) ที่อาศัยอยู่บริเวณ ทะเลสาบฮุฟสกุล
ตำนานของทะเลสาบฮุฟสกุล
แม้จะไม่มีตำนานที่โดดเด่นเพียงเรื่องเดียวเกี่ยวกับทะเลสาบฮุฟสกุลที่มีเรื่องราวสอดคล้องกัน แต่ก็มีเรื่องราวและความเชื่อหลายประการที่เกี่ยวข้องกับทะเลสาบ ความเชื่อทั่วไปประการหนึ่งคือ ทะเลสาบฮุฟสกุลเชื่อมต่อกับทะเลสาบไบคาลใต้ดิน โดยเรียกทั้งสองว่า “ทะเลสาบพี่น้อง” เนื่องจากมีต้นกำเนิดทางธรณีวิทยาที่เหมือนกันและธรรมชาติที่บริสุทธิ์คล้ายคลึงกัน บางคนถึงกับอธิบายว่าเชื่อมต่อกันด้วย “สายสะดือ”
ชาวมองโกเลียมักเรียกทะเลสาบฮุฟสกุลว่า “Khuvsgul Dalai” ซึ่งแปลตรงตัวว่า “มหาสมุทรฮุฟสกุล” หรือ “มหาสมุทรแม่” ตำนานหนึ่งอธิบายเรื่องนี้โดยเล่าว่าในสมัยที่มองโกเลียอยู่ภายใต้การปกครองของแมนจู และมีการเก็บภาษีทรัพยากรธรรมชาติ ชาวบ้านในพื้นที่ไม่พอใจกับเรื่องนี้ โดยอ้างว่าฮุฟสกุลไม่ใช่แค่ทะเลสาบแต่เป็นมหาสมุทร เน้นย้ำถึงความกว้างใหญ่และแม่น้ำจำนวนมาก (มีรายงานว่า 90 สาย) ที่ไหลลงสู่ทะเลสาบ ตามเรื่องราว เมื่อเจ้าหน้าที่แมนจูพยายามนับแม่น้ำ ชาวบ้านได้สวดมนต์ขอฝนและทำให้น้ำท่วมบริเวณนั้น เป็นการพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างของพวกเขา
ทะเลสาบถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวมองโกเลียในท้องถิ่นและได้รับการเคารพอย่างสูง น้ำที่บริสุทธิ์และพื้นที่ป่าโดยรอบมีส่วนช่วยให้เกิดความสำคัญทางจิตวิญญาณนี้ มีความเข้าใจทั่วไปว่าการทำให้สมดุลของธรรมชาติรอบทะเลสาบเสียไปอาจนำมาซึ่งผลลัพธ์เชิงลบ ดังที่แสดงในเรื่องราวเกี่ยวกับขุนนางที่พยายามสร้างสะพานข้ามทะเลสาบด้วยทองและเงิน แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากพลังอาถรรพ์
ดังที่กล่าวข้างต้น เรื่องเล่าพื้นบ้านเรื่องหนึ่งเล่าถึงขุนนางผู้ร่ำรวยที่หลงใหลในความงามของทะเลสาบมากจนพยายามสร้างสะพานข้ามทะเลสาบโดยใช้อิฐทองคำและเงิน อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่สะพานใกล้จะสร้างเสร็จ พลังลึกลับก็จะทำลายมันลง ในที่สุดก็นำไปสู่ความล่มจมทางการเงินของชายผู้นั้น นิทานเรื่องนี้ทำหน้าที่เป็นบทเรียนเตือนใจเกี่ยวกับการเคารพพลังและความสมดุลของธรรมชาติ
ตำนานและความเชื่อเหล่านี้เน้นย้ำถึงความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณอันลึกซึ้งที่ชาวมองโกเลียมีต่อทะเลสาบฮุฟสกุล โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของทะเลสาบไม่เพียงแค่เป็นทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการยกย่องและเกือบจะเป็นสิ่งมีชีวิตในตำนาน
เมื่อคุณไปเที่ยวที่ทะเลสาบฮุฟสกุล (Khuvsgul Lake) ในมองโกเลีย คุณสามารถทำกิจกรรมและสำรวจสถานที่ต่างๆ ได้มากมาย ทะเลสาบแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น “ไข่มุกสีน้ำเงิน” ของมองโกเลีย และมีทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ทะเลสาบฮุฟสกุลมีบรรยากาศสวยงามมากเอื้อต่อการทำกิจกรรมต่างๆ หลากหลายรูปแบบ ทั้ง กิจกรรมทางน้ำ ล่องเรือและชมวิว พายเรือคายัค หรือเรือแคนู และตกปลา ซึ่ง ทะเลสาบฮุฟสกุลเป็นแหล่งของปลาหลากหลายชนิด หากคุณสนใจในการตกปลา คุณสามารถขอใบอนุญาตและสนุกกับการตกปลาในทะเลสาบน้ำจืดที่ใสสะอาดแห่งนี้ ในช่วงฤดูร้อน หากอากาศอบอุ่นพอ คุณสามารถลงเล่นน้ำในทะเลสาบได้ แต่โปรดทราบว่าน้ำในทะเลสาบมักจะค่อนข้างเย็น
นอกจากกิจกรรมในทะเลสาบแล้วยังสามารถทำกิจกรรมบนบกและการผจญภัยได้อีกด้วย
- เดินป่า/เทรคกิ้ง: บริเวณรอบทะเลสาบมีเส้นทางเดินป่าและเทรคกิ้งหลากหลายระดับให้คุณได้สำรวจ ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมป่าริมทะเลสาบ หรือการปีนขึ้นไปยังภูเขาเพื่อชมทัศนียภาพมุมสูง
- ขี่ม้า: การขี่ม้าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมในแถบนี้ คุณสามารถเช่าม้าพร้อมคนนำทางเพื่อสำรวจพื้นที่รอบทะเลสาบ ป่าไม้ และภูเขาได้อย่างอิสระ
- ขี่จักรยานเสือภูเขา: สำหรับนักปั่นที่ชอบการผจญภัย คุณสามารถนำจักรยานเสือภูเขามาปั่นสำรวจเส้นทางต่างๆ รอบทะเลสาบได้
- เยี่ยมชมชุมชนคนเลี้ยงกวางเรนเดียร์ (Tsaatan): สัมผัสวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่า Tsaatan ซึ่งเป็นชนเผ่าเร่ร่อนที่เลี้ยงกวางเรนเดียร์ คุณสามารถเยี่ยมชมค่ายของพวกเขา เรียนรู้วิถีชีวิต และถ่ายรูปกับกวางเรนเดียร์ได้ (อาจต้องเดินทางลึกเข้าไปในป่า)
- เยี่ยมชมหมู่บ้าน Hatgal: หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลสาบ เป็นจุดเริ่มต้นยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวทะเลสาบ คุณสามารถเดินเล่นในหมู่บ้าน เยี่ยมชมตลาดท้องถิ่น และเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น
กิจกรรมทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ
- พักใน Ger Camp: สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนแบบดั้งเดิมของชาวมองโกเลียด้วยการพักใน Ger (กระโจม) ซึ่งเป็นที่พักแบบดั้งเดิมของคนเร่ร่อน มี Ger Camp หลายแห่งรอบทะเลสาบที่ให้บริการนักท่องเที่ยว
- ชมสัตว์ป่า: บริเวณรอบทะเลสาบเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด เช่น นกต่างๆ (มีนกหายากและนกอพยพหลายชนิด) คุณอาจมีโอกาสได้เห็นสัตว์อื่นๆ ด้วย
- ถ่ายภาพ: ทะเลสาบฮุฟสกุลมีทัศนียภาพที่สวยงามตระการตา เหมาะสำหรับการถ่ายภาพในทุกฤดูกาล
กิจกรรมพิเศษ (ตามฤดูกาล)
เทศกาลน้ำแข็ง (Ice Festival): หากคุณเดินทางไปในช่วงฤดูหนาว (ประมาณเดือนมีนาคม) คุณอาจมีโอกาสได้เข้าร่วมเทศกาลน้ำแข็งบนทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การแข่งขันแกะสลักน้ำแข็ง การแข่งกีฬาบนน้ำแข็ง และการแสดงทางวัฒนธรรม
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเที่ยวทะเลสาบฮุฟสกุล
ช่วงฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) เป็นช่วงที่อากาศดีที่สุดสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ แต่ก็เป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดเช่นกัน ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงก็มีอากาศดีและมีนักท่องเที่ยวน้อยกว่า
การเตรียมตัว
เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ง่าย ควรมีเสื้อผ้าที่อบอุ่น กันลม และกันฝน นอกจากนี้ ควรเตรียมอุปกรณ์กันแดด หมวก และแว่นตากันแดด
ที่พัก : มี Ger Camp และเกสต์เฮาส์หลายแห่งรอบทะเลสาบ ควรจองล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยว แต่ความพร้อมของเกสต์เฮ้าส์ หรือ กีร์(เกอ) ต่างๆ จะไม่ค่อยสมบูรณ์มากนักท่องเที่ยวอาจต้องทำใจสักเล็กน้อย แต่ก็ยังพอมีที่พักใหญ่ๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างพร้อมอยู่บ้างแต่ก็น้อยมาก ดังนั้นต้องจองล่วงหน้านานๆ
การเดินทาง: การเดินทางไปยังทะเลสาบฮุฟสกุลอาจต้องใช้เวลา ขึ้นอยู่กับวิธีการเดินทางของคุณ คุณสามารถเดินทางโดยเครื่องบินไปยังเมือง Murun ที่อยู่ใกล้เคียง แล้วต่อรถไปยังทะเลสาบ หรือเดินทางโดยรถยนต์จากอูลานบาตอร์ ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนานถึง 2 วัน และพักค้างแรมระหว่างทาง 1 คืนเลยทีเดียว แต่ถ้าต้องการแวะเที่ยวสถานที่อื่นๆ ระหว่างทาง ก็ต้องเผื่อเวลาสำหรับเดินทางและค้างแรมเพิ่มอีกหลายคืนตามแต่เส้นทางที่เราวางแผนไว้
หากสนใจเที่ยวมองโกเลีย สามารถสอบถามเพื่อให้บีเจอร์นีไลฟ์ ออกแบบโปรแกรมทัวร์มองโกเลีย เที่ยวทะเลสาบฮุฟสกุล ได้เลยนะคะ ประเทศเล็กๆ แห่งนี้ยังมีอะไรดีๆ ให้ค้นหามากมาย