ทัวร์กรีซ : เจาะลึก 16 สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะโรดส์
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจบนเกาะโรดส์
1. พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Palace of Grand Master)
ทัวร์กรีซ พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ ตั้งอยู่สุดถนนอัศวินในเมืองเก่าของโรดส์ เดิมทีสร้างขึ้นบนฐานของวิหารสุริยเทพ (เฮลิโอส) ซึ่งเป็นลัทธิที่แพร่กระจายไปทั่วเกาะโรดส์ในสมัยโบราณ ทัวร์กรีซ พระราชวังแห่งนี้เป็นที่พำนักของผู้ว่าราชการและเป็นศูนย์บริหารราชการในยุคกลาง สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดยอัศวินแห่งนักบุญจอห์นแห่งเยรูซาเลม ซึ่งโดดเด่นด้วยหอคอยทรงกลมและประตูโค้ง
พระราชวังมีขนาดมหึมา มีห้องพักทั้งหมด 158 ห้อง แม้ปัจจุบันจะเปิดให้เข้าชมเพียง 24 ห้องเท่านั้น ทัวร์กรีซ ภายในห้องพักมีเฟอร์นิเจอร์โบราณในศตวรรษที่ 16-17 หินอ่อนหลากสีอันงดงาม ประติมากรรม พรม และแจกันแบบตะวันออกอันวิจิตรงดงาม ชั้นหนึ่งของพระราชวังมีห้องที่ใช้งานโดยทั่วไป และห้องส่วนตัวของแกรนด์มาสเตอร์ และชั้นล่างสุดจะพบห้องเสริม ทัวร์กรีซ ห้องสำคัญที่สุดคือห้องโถงใหญ่ ห้องรอ ห้องบอลรูมที่น่าประทับใจ และห้องดนตรีหรูหรา และส่วนที่ไม่ควรพลาดชม คือ ห้องโมเสกเมดูซ่า
สิ่งสำคัญพิเศษภายในพระราชวังแห่งนี้ คือ พื้นปูด้วยโมเสกของศิลปะโรมันและไบแซนไทน์โบราณ ลานภายในประดับด้วยรูปปั้นสมัยกรีกและโรมันมากมาย รวมถึงภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยศิลปินชื่อดัง
พื้นที่ส่วนใหญ่ของพระราชวังอันงดงามแห่งนี้ถูกทำลายลงในปี ค.ศ. 1856 ด้วยระเบิดที่ซ่อนอยู่ในชั้นใต้ดินของโบสถ์เซนต์จอห์น ทัวร์กรีซ ต่อมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ได้รับการบูรณะโดยชาวอิตาลีที่ยึดครองหมู่เกาะโดเดคานีสในขณะนั้น และหลายปีต่อมาสถานที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์แห่งอิตาลี วิกเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 3 และ ผู้นำเผด็จการ เบนิโต มุสโสลินี แต่ปัจจุบันเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลกรีซ ทัวร์กรีซ และมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอยู่ภายในด้วยเช่นกัน
2. ถนนอัศวินแห่งโรดส์ (Rhodes Street of the Knights)
ทัวร์กรีซ ถนนอัศวินแห่งโรดส์ เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในย่านเมืองเก่าของโรดส์ อาคารสองฝั่งถนนยุคกลางยาว 600 เมตร ปูด้วยหินที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ทัวร์กรีซ ที่รู้จักกันในชื่อ “โอโดส ซิปโปตอน (Odos Ippoton)” ในภาษากรีก รับประกันว่านักท่องเที่ยวจะได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต ทัวร์กรีซ นี่คือหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมสำหรับการเดินเล่นในเมือง
ถนนที่ปูด้วยหินนี้ได้เข้ามาแทนที่ถนนโบราณที่เชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองเก่ากับอะโครโปลิสแห่งโรดส์ ทัวร์กรีซ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น การบริบาลของอัศวิน (Hospital of the Knights) และไปสิ้นสุดที่ พระราชวังแกรนด์ มาสเตอร์ โดยอาคารต่างๆ ที่พบตามถนน จะเป็นโรงแรมเล็กๆ ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16
3. อะโครโปลิสแห่งโรดส์ (Acropolis of Rhodes)
ทัวร์กรีซ อะโครโปลิสแห่งโรดส์ ตั้งอยู่ภายในอุทยานโบราณคดีบนเนินมอนเต้ สมิธ ที่ได้รับการขุดแต่งอย่างสวยงามและเขียวขจีของภูมิทัศน์โดยรอบ เป็นซากก่อสิ่งก่อสร้างที่เป็นส่วนหนึ่งของเมืองกรีกโบราณที่ไม่มีป้อมปราการ ทัวร์กรีซ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล เป็นตัวอย่างงานสถาปัตยกรรมกรีกที่ดีที่สุด เป็นการผสมผสานอย่างกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมรอบ โดยเป็นสถานที่แข่งขันกีฬาเพื่อถวายเกียรติแด่องค์สุริยะเทพ เฮลิโอส ในเทศกาลสำคัญของชาวโรเดียน
โดยสนามกีฬามีความยาวประมาณ 200 เมตร ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเนินเขา ทัวร์กรีซ ถูกขุดขึ้นมาในสมัยที่เกาะโรดส์อยู่ภายใต้การปกครองของอิตาลี ถัดจาก เดอะ โอเดียน (The Odeon) ที่นักโบราณคดีเชื่อว่าเป็นสถานที่ใช้สำหรับการแสดงดนตรีและการเรียนวาทศาสตร์ที่สามารถรองรับผู้ชมได้ 800 คน ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสนามกีฬา ที่ได้รับการบูรณะใหม่ให้เหมือนกับในสมัยโบราณ ทัวร์กรีซ มีซากวิหารของเทพีอะธีนา โปลีอัสและเทพซุส โปลิอุส (Athena Polias & Zeus Polieus) ตั้งอยู่จุดสูงสุดของเนินเขา และบนยอดเขาทางตอนใต้ของอะโครโปลิส มีวิหารขนาดเล็กของเทพไพธิออน อะพอลโล่ ซึ่งเป็นเทพผู้อุปถัมภ์ของเมือง ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพเมืองและทะเลได้แบบพาโนราม่า และพระอาทิตย์อัสดงที่สวยงาม
4. อะโครโปลิสแห่งลินโดส (Acropolis of Lindos)
ทัวร์กรีซ เมืองโบราณลินโดส ตั้งอยู่ห่าง เมืองโรดส์ ไปทางใต้ประมาณ 45 กม. เป็นเมืองที่ก่อตั้งโดยชาวดอเรียนส์ (Dorians) ในศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาล ต่อมาในศตวรรษที่ 8 ลินโดสเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญ เนื่องจากตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ระหว่างกรีซและตะวันกลาง ทัวร์กรีซ ลินโดสเริ่มเสื่อมถอยลงเมื่อมีการก่อตั้งเมืองโรดส์เพื่อเป็นศูนย์กลางของนครรัฐแห่งโรดส์ในศตวรรษที่ 5
ซากโบราณคดีที่พบในและรอบๆ อะโครโปลิสแห่งลินโดส เผยให้เห็นความมั่งคั่งของเมืองโบราณแห่งนี้ ทัวร์กรีซ และส่วนหนึ่งของอนุสรณ์สถานที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม คือ วิหารดอริคที่สร้างอุทิศให้กับเทพีอะธีนา ลินเดีย องค์อุปถัมภ์ของชาวเมืองลินโดส ในศตวรรษที่ 4 บนซากของวิหารอื่น
ประตูโพรพีเลยา (Propylaea) ของเขตรักษาพันธุสัตว์ป่าประกอบด้วยบันไดและประตูห้าบาน ทัวร์กรีซ ซึ่งมีโอกาสเห็นรูปนูนของเรือรบโบราณที่เรียกว่า “ไตรรีม (Trireme)” ที่เชิงบันไดนอกเหนือจากนี้ ทัวร์กรีซ ยังมีวิหารโรมันที่อุทิศให้กับจักรพรรดิดิโอคเลเชี่ยน และกำแพงกรีกโบราณล้อมรอบอะโครโปลิส
โบราณสถานแห่งลินโดสทั้งหมด ได้รับการคุ้มครองโดยปราสาทยุคกลาง ที่สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 14 โดยอัศวินแห่งนักบุญจอห์นแห่งเยรูซาเลม ทัวร์กรีซ โดยหอคอยสองแห่งของปราสาทได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีจนถึงทุกวันนี้ ด้านนอกปราสาททางตะวันตกเฉียงใต้ เคยมีโรงละครโบราณอยู่ ปัจจุบันเหลือเพียงที่นั่งหนึ่งแถวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหอประชุม เชื่อกันว่าโรงละครสามารถรองรับผู้ชมได้ประมาณ 1,800 คน
การขุดค้นที่แหล่งโบราณคดีลินโดส เริ่มต้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยชาวอิตาลีที่เข้ามายึดครองเกาะโรดส์ระหว่างปี ค.ศ. 1912-1945 ที่พยายามฟื้นฟูการค้นพบโบราณวัตถุ ทัวร์กรีซ แต่จริงๆ แล้วพวกเขาได้ทำลายบางส่วนไปก็ตาม แต่ปัจจุบันแหล่งโบราณคดีแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงวัฒนธรรมกรีก และนักโบราณคดีทั้งชาวกรีกและชาวต่างประเทศกำลังดำเนินการอยู่ ทัวร์กรีซ เพื่อปกป้องอนุสาวรีย์แห่งนี้
5. เมืองเอียลิสโซสโบราณแห่งโรดส์ (Ancient Ialyssos of Rhodes)
ทัวร์กรีซ เอียลีสโซสเคยเป็นเมืองโบราณหนึ่งในสามของนครรัฐที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะโรดส์ ห่างจาก เมืองโรดส์ หรือ โรดส์ทาวน์ มาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 10-15 กม. ทัวร์กรีซ โดยตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีป้อมปราการ ซึ่งเป็นทำเลทางยุทธศาสตร์ในการป้องกันเมืองโรดส์เมื่อ 480 ปีก่อนคริสตกาล ทัวร์กรีซ เมืองโบราณเอียลิสโซสได้ร่วมกับสองนครรัฐก่อตั้งสมาพันธ์ แล้วย้ายเมืองหลวงโรดส์ไปยังเมืองใหม่หรือ โรดส์ทาวน์ ที่ทันสมัยจนถึงปัจจุบัน
ทัวร์กรีซ ร่องรอยของเมืองเอียลิสโซสในปัจจุบันเหลือเพียงวิหารดอริก ที่ถูกมหาวิหารหลวงโรมันคาทอลิกสร้างทับ และถูกแทนที่ด้วยอารามไบแซนไทน์ที่มีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 6 ทัวร์กรีซ ในเวลาต่อมา ซึ่งถูกอัศวินแห่งนักบุญจอห์นแห่งเยรูซาเลมยึดปกครองเกาะโรดส์แห่งนี้อีกที โดยยึดอารามไบแซนไทน์และตั้งเมืองหลวงแทนที่เมืองโรดส์ทาวน์ในปัจจุบัน
ทัวร์กรีซ เมืองเอียลิสโซสโบราณถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิงโดยพวกเติร์กที่ขึ้นเกาะมาปล้นสะดม ต่อก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของชาวอิตาลี ซึ่งได้สร้างอารามและโบสถ์น้อย (ชาเปล) ขึ้นใหม่สี่แห่ง เพื่อดึงดูดให้ชาวคริสต์ออร์โธดอกซ์เดินทางมาแสวงบุญ ทัวร์กรีซ อีกแห่งหนึ่งเป็นโบสถ์คาทอลิกอีกหนึ่งแห่งชาวคาทอลิค อีกแห่งหนึ่งเป็นโบสถ์สำหรับอัศวินที่เข้ามาปกครอง และอีกแห่งสำหรับเก็บอัฐิของอัศวินผู้ปกครอง
6. เมืองกามิโรสโบราณ (Ancient Kamiros)
เมืองกามิโรสโบราณตั้งอยู่ชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ ห่างจากเมืองโรดส์ทาวน์ประมาณ 50 กม. ทัวร์กรีซ กามิโรสเป็นเมืองบนเกาะที่ทรงอำนาจที่สุดในสมัยโบราณร่วมกับลินโดสและเอียลิสโซส ทัวร์กรีซ ที่ก่อตั้งนครรัฐแห่งโรดส์อันทรงพลังขึ้นในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล ที่หลงเหลือร่องรอยไม่กี่อย่างในปัจจุบัน
เมืองกามิโรสก่อตั้งโดยชาวดอเรียนส์ (Dorians) จากคาบสมุทรเปโลปอนนีสบนแผ่นดินใหญ่ ทัวร์กรีซ ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ และชาวอาเคี่ยน (Achaeans) ที่เข้ามาตั้งรกรากในเวลาต่อมา ซึ่งค้นพบจากสิ่งของที่ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาล ทัวร์กรีซ เมืองนี้ถูกแผ่นดินไหวทำลายสองครั้ง ครั้งที่หนึ่งใน 266 ปีก่อนคริสตกาล และครั้งที่สองเมื่อ 142 ปีก่อนคริสตกาล หลังจากนั้นก็ถูกทิ้งร้าง
เมืองกามิโรสโบราณถูกสร้างขึ้นในสามระดับ บนยอดเขาที่มีอะโครโปลิสและวิหารเทพีอะธีน่า ทัวร์กรีซ กาไมรัส มีอ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นสำหรับชุมชน 400 ครอบครัว รอบอะโครโปลิสที่มีถนนคู่ขนานและที่พักอาศัย โดยมีห้องพร้อมเสาแบบดอริคและ ระเบียงมีหลังคา หรือ สโตอา (Stoa) รอบอ่างเก็บน้ำ ทัวร์กรีซ ชั้นล่างของอะโครโปลิสประกอบด้วยวิหารดอริคที่อุทิศในกับเทพอะพอลโล่กับเทพอะโกร่า ซึ่งเป็นสถานที่ที่หารือทางการเมือง
ทัวร์กรีซ เมืองกามิโรสโบราณถูกขุดขึ้นมาครั้งแรก ในช่วงทศวรรษที่ 1850 และ 1860 และพบอะโครโปลิสในปี ค.ศ. 1928 ขณะที่เกาะโรดส์อยู่ภายใต้การปกครองของอิตาลี ทัวร์กรีซ โดยโรงเรียนโบราณคดีของอิตาลีที่ขุดค้นจนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง และหมู่เกาะโดเดกานีสกลายเป็นของกรีซ
7. ปราสาทโมโนลิโธส (Castle of Monolithos)
ทัวร์กรีซ โมโนลิโธส เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ห่างจากเมืองโรดส์ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 70 กม. เป็นปราสาทเวนิสที่ตั้งอยู่บนหินขนาดใหญ่สูง 100 เมตรเหนือหมู่บ้าน ทัวร์กรีซ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1480 เพื่อปกป้องพื้นที่จากโจรสลัดและศัตรู ปัจจุบันปราสาทถูกทำลาย แต่มีทิวทัศน์อันงดงามของชายหาดฟูรนี่ (Fourni Beach) และเกาะเล็กเกาะน้อยสองเกาะที่อยู่ตรงข้ามชายฝั่ง ทัวร์กรีซ ในการเข้าถึงปราสาทแห่งนี้ ซึ่งต้องปีนขึ้นไปบนเส้นทางแคบๆ ที่มีบันไดหลายขั้น ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี ขณะที่ยามเย็นเป็นจุดชมพระอาทิตย์อัสดงที่งดงามแห่งหนึ่งบนเกาะโรดส์
กำแพงส่วนใหญ่ของปราสาทโมโนลิโธส ถูกทำลายนานแล้ว ทัวร์กรีซ ตรงกลางจะพบโบสถ์สีขาวที่สร้างอุทิศให้กับนักบุญปันเตเลม่อน และโบสถ์เล็กๆ อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งทั้งสองแห่งได้พังทลายลงในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมี ถังเก็บน้ำฝน (Cistern) เก่าๆ ที่ใช้กักเก็บน้ำและจ่ายน้ำทั่วทั้งพื้นที่
8. ปราสาทคริติเนีย (Castle of Kritinia)
ปราสาทคริติเนีย ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงใกล้หมู่บ้านคริติเนีย ทัวร์กรีซ ห่างจากเมืองโรดส์ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ระยะทาง 45 กม. เป็นซากปรักหักพังของปราสาทยุคกลาง ปราสาทแห่งนี้สร้างโดยอัศวินแห่งนักบุญจอห์นแห่งเยรูซาเลม ซึ่งมีองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์และเวนิส ทัวร์กรีซ เดิมทีถูกสร้างขึ้นในสามระดับ แต่ละระดับกำหนดให้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแกรนด์ มาสเตอร์ที่แตกต่างกัน
ปราสาทแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากถนนลาดยาง และที่ตั้งของปราสาทมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของอีเจียน เกาะฮัลกี้ ที่อยู่ใกล้เคียง และท่าเรือกาไมโรส ทัวร์กรีซ ภายในกำแพงมีซากโบสถ์น้อย (ชาเปล) ในอารามนักบุญจอห์นที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งสามารถชมภาพวาดฝาผนังที่สวยงามจากศตวรรษที่ 16 ในฤดูร้อน ทัวร์กรีซ จะมีการจัดงาน เทศกาลกุหลาบยุคกลาง (Medieval Rose Festival) ขึ้นทุกเดือนมิถุนายน
9. เกรท ฮัมมัม (Great Hammam)
เกรท ฮัมมัน แปลว่า โรงอาบน้ำดีสุดยอด เป็นหนึ่งในห้องอาบน้ำสไตล์ตุรกีที่เหลืออยู่ไม่กี่แห่งในเมืองยุคกลางแห่งโรดส์ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ในช่วงที่จักรวรรดิออตโตมันยึดครองเกาะโรดส์ ทัวร์กรีซ เกรท ฮัมมัม มีชื่ออื่นๆ ว่า โรงอาบน้ำสุไลมาน, โรงอาบน้ำมุสตาฟา และเยนี่ ฮัมมัม ที่มีความหมายว่า โรงอาบน้ำใหม่
เกรท ฮัมมัม เดิมสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1558 โดยส่วนแรกเป็นห้องอาบน้ำชาย ซึ่งเป็นโครงสร้างทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ส่วนห้องอาบน้ำหญิงถูกเพิ่มเข้ามาทีหลังเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทัวร์กรีซ ภายใต้การปกครองของมุสตาฟา ปาชา ภายในยิ่งน่าประทับใจยิ่งขึ้นไปอีก โดยห้องชายตกแต่งด้วยหินอ่อนหรูหรา และตรงกลางมีน้ำพุที่ตกแต่งอย่างหรูหรา และพื้นที่ที่เหลือยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวต้องช่องรับแสงขนาดเล็กในโดม
อาคารในปัจจุบันได้รับการปรับปรุงใหม่ ทัวร์กรีซ และใช้เป็นสปาฮัมมัม โดยมีบริการนวดขัดผิว และสระผมแบบดั้งเดิมตั้งแต่หัวจรดเท้า
10. อารามปานาเกีย ซัมบิก้า (Monastery of Panagia Tsambika)
อารามปานาเกีย ซัมบิก้า ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองโรดส์ห่างประมาณ 25 กม. ระหว่างหมู่บ้านกาลีมเบีย (Kalymbia) และอารคานเกโลส ทัวร์กรีซ เป็นอารามเก่าแห่งซัมบิก้าที่สร้างขึ้นบนยอดเขาพร้อมทิวทัศน์อันงดงามของทะเลและพื้นที่โดยรอบ ในขณะที่อารามแห่งใหม่ซึ่งใช้งานได้ในปัจจุบันนี้ ทัวร์กรีซ ตั้งอยู่บนถนนที่เชื่อมระหว่างหมู่บ้านอารคานเกโลสกับเมืองโรดส์
ไม่มีใครทราบว่าอารามโบราณแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อใด แต่เรารู้ว่าได้รับการบูรณะใหม่ในปี ค.ศ. 1770 โดยพระสงฆ์ของอาราม บางแหล่งข้อมูลระบุว่า แท่นบูชาเทพีอาร์เทมิส จะตั้งอยู่ในสถานที่เดียวกันกับการบูชายัญต์สัตว์ในสมัยโบราณ ซึ่งอารามแห่งนี้โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโดเดกาเนเชียน ด้วยกระเบื้องมุงหลังคากลวง พื้นโบสถ์ และสนามหญ้าปูด้วยหินกรวดและเปลือกหอย ทัวร์กรีซ รูปเคารพบางชิ้นมีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ขณะที่บางชิ้นมีอายุมากกว่านั้น
ชื่ออารามมาจากคำว่า “ซัมบิก้า (Tsambika)” แปลว่า ประกายไฟ ในภาษาท้องถิ่น ทัวร์กรีซ ตามตำนานที่เล่าต่อๆ กันมาว่า คนเลี้ยงแกะในท้องถิ่นพบรูปเคารพของพระแม่มารีบนหน้าผา ทัวร์กรีซ ซึ่งต่อมาอารามเก่าได้ถูกสร้างขึ้นตามแสงไฟเฝ้ายาม โดยรูปเคารพของแม่พระมารีกับพระบุตร “ปานาเกีย ซัมบิก้า (Panagia Tsambika)” เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับหญิงที่ต้องการบุตร ซึ่งเป็นที่มาของตุ๊กตาเด็กที่นำมาถวาย ทัวร์กรีซ หลังจากมาขอพรเพื่อให้ได้บุตร อารามปานาเกียแห่งนี้ถือเป็นผู้พิทักษ์เกาะ และคนท้องถิ่นที่เป็นผู้ชายจะเรียกว่า “ซัมบิโกส (Tsambikos) และ “ซัมบิก้า (Tsambika) สำหรับผู้หญิง
11. อารามฟิเลริโมส (Filerimos Monastery)
อารามฟิเลริโมส ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองโบราณเอียลิสโซส ห่างจากเมืองโรดส์ตะวันตกเฉียงใต้ 12 กม. ทัวร์กรีซ อารามแห่งนี้อุทิศให้กับพระแม่มารีพรหมจารีย์ผู้ให้ชีวิต หรือ โซโดโคส พิจี (Zoodochos Pighi) และสถาปัตยกรรมของอารามจะแตกต่างจากอารามทั่วไปในกรีซมาก ทัวร์กรีซ เป็นอารามที่สร้างขึ้นด้วยหินในสไตล์กอธิค ในบริเวณอารามไบแซนไทน์เก่าแก่
อารามแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 ทัวร์กรีซ โดยอัศวินแห่งนักบุญจอห์นแห่งเยรูซาเลม ผู้พิชิตเกาะโรดส์ ข้างในอารามมีสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่มารี ซึ่งเหล่าอัศวินอาจนำมาจากกรุงเยรูซาเลมมายังเกาะโรดส์ เมื่อพวกออตโตมันยึดครองเกาะในปี ค.ศ. 1523 เหล่าอัศวินก็จากไปและนำเอารูปเคารพติดตัวไปด้วย ทัวร์กรีซ ซึ่งรูปเคารพต้องย้ายไปอยู่ตามที่ต่าง ๆ ทั้งในอิตาลี มอลต้า ฝรั่งเศส และรัสเซีย ปัจจุบันรูปเคารพนี้ถูกจัดอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติมอนเตเนโกร
ในบริเวณรอบๆ อาราม มีซากปรักหักพังของสถานทำพิธีศีลจุ่มที่มีรูปร่างเป็นรูปไม้กางเขน ทัวร์กรีซ ซากเมืองเอียลิสซอสโบราณ และโบสถ์ใต้ดินของนักบุญจอร์จ ที่อายุตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 ทัวร์กรีซ อารามฟิเลริโมส ก็เริ่มต้นเส้นทางไปยังโกลกอธัส ด้านบนของเส้นทางนี้ ขึ้นไปบนเนินเขาที่มีทิวทัศน์อันน่าทึ่ง มีไม้กางเขนขนาดมหึมา ในขณะที่ด้านหนึ่งของเส้นทางมีภาพแกะสลักที่แสดงถึงความหลงไหลในพระคริสต์
12. โบสถ์พระตรีเอกานุภาพศักดิ์สิทธิ์ (Holy Trinity Church)
หรือ โบสถ์โฮลี่ ทรินิตี้ หรือ โบสถ์อาเกีย ทริอาด้า (Church of Agia Triada) เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานทางศาสนาที่น่าประทับใจที่สุดในโรดส์ ตั้งอยู่บนถนนอัศวินในเมืองโรดส์ทาวน์ ทัวร์กรีซ ภายในบริเวณโบสถ์มีซากปรักหักพังที่มีอายุตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ
ทัวร์กรีซ โบสถ์หินแห่งนี้สร้างขึ้นแรกในช่วงศตวรรษที่ 15 มีสถาปัตยกรรมอาคารมีรูปทรงไม้กางเขนและหลังคาโดมกระเบื้อง ผลการวิจัยชี้ว่าในช่วงแรกอารามสร้างอุทิศให้กับนักบุญไมเคิล (มีคาแอล หรือ มิกาอิล) ทัวร์กรีซ และต่อมาถูกดัดแปลงเป็นมัสยิดในช่วงอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิออตโตมัน จิตรกรรมฝาผนังและภาพเขียนเฟรสโก้ภายในโบสถ์ที่มีอายุตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 16 จำนวนมากได้รับความเสียหายหนัก ทัวร์กรีซ แต่ได้รับการซ่อมแซมใหม่ในช่วงการยึดครองของชาวเวนิส โบสถ์แห่งนี้ได้รับความเสียหายบางส่วนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และได้รับการบูรณะฟื้นฟูหลังทศวรรษที่ 1980
13. ปานาเกียแห่งบูรกู (Panagia tou Bourgou)
หรือ ปราสาทแม่พระแห่งบูรกู หรือ ปราสาทแม่พระ เป็นแลนด์มาร์คหลักในเมืองยุคกลางของเมืองโรดส์ ทัวร์กรีซ เป็นหนึ่งในอาสนวิหารแห่งแรกๆ ที่สร้างขึ้นบนเกาะและเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงตั้งตระหง่านบนเกาะโรดส์
ทัวร์กรีซ อนุสรณ์ทางศาสนาที่คงรูปแบบให้เห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ซึ่งเป็นยุคของเอริยง เดอ วิล์เลเนิฟ (Hélion de Villeneuve) แกรนด์ มาสเตอร์ ซึ่งเป็นพี่ชายของนักบุญโรเซลีน เดอ วิล์เลเนิฟ (St. Roseline de Villeneuve) ทัวร์กรีซ แม้ว่าอาคารส่วนใหญ่จะถูกทำลายไปแล้ว แต่ซากที่หลงเหลือให้เห็นก็ยังน่าประทับใจ ซึ่งผลวิจัยชี้ว่าการทำลายอาสนวิหารแห่งนี้น่าจะเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1522 มีการดัดแปลงจากวิหารออร์โธดอกซ์เป็นอาสนวิหารคาทอลิก ภายใต้ชื่อ “ซังค์ต้า มารีอา กาสเตลี โรดี (Sancta Maria Castelli Rodi)” และในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 ทัวร์กรีซ โบสถ์แห่งนี้เคยอุทิศในกับนักบุญแคทเธอรีน
โบสถ์ที่สร้างด้วยหินแห่งนี้ เป็นโบสถ์ทรงโดมที่มีทางเดินสามทางและมีรูปแบบสถาปัตยกรรมกอธิค ทัวร์กรีซ เดิมทีกลุ่มอาคารรอบๆ โบสถ์ประกอบด้วยโรงสวด (ชาเปล) 6 แห่ง และสุสาน 7 แห่ง ทัวร์กรีซ นอกจากจะพบซุ้มโค้ง 3 ซุ้มของโบสถที่ยังหลงเหลืออยู่แล้ว ทัวร์กรีซ ยังสามารพบซากปรักหักพังของโรงสวดมนต์ดั้งเดิมอีกด้วย ปัจจุบันโบสถ์ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว แต่ยังคงมีการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ ในช่วงฤดูร้อน
14. หุบเขาแห่งผีเสื้อ (Valley of Butterflies)
ทัวร์กรีซ หุบเขาผีเสื้อ เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่มีเอกลักษ์เฉพาะตัวตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะโรดส์ ห่างจากเมืองโรดส์ประมาณ 27 กม. และ 5 กม. ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่บ้านเธโดโลโกส ทัวร์กรีซ หุบเขาผีเสื้อเป็นพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยผีเสื้อในสกุลปานาเซีย (Panaxia genus) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ควอดริพันแทเรีย โพด้า (Quadripunctaria Pada)
ในช่วงฤดูฝน ผีเสื้อจะอาศัยอยู่ตามตัวหนอนตามพื้นที่ต่างๆ รอบๆ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ขณะที่ฤดูใบไม้ผลิ เมื่อพวกมันออกจากตัวหนอนเป็นผีเสื้อเต็มตัว ทัวร์กรีซ พวกมันจะบินไปยังบริเวณที่มีความชื้นสูงเพื่อแพร่พันธุ์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่พวกมันบินมาที่หุบเขาแห่งนี้ โดยข้ามมาที่แม่น้ำเปเลกาโนสและน้ำตกหลายแห่งกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งหุบเขาผีเสื้อได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทุกปีตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงกันยายน ทัวร์กรีซ จะมีผู้มาเยือนหลายพันคนมาชมสัตว์ปีกสายพันธุ์ที่น่ารักนี้ และเดินผ่านเส้นทางแคบๆ ความเย็นสบายของสถานที่แห่งนี้ เสียงน้ำที่ไหลเย็น และร่มเงาของต้นไม้ทำให้ที่นี่เหมาะแก่การพักผ่อน ทัวร์กรีซ โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน สะพานไม้ขนาดเล็กข้ามแม่น้ำและมีเส้นทางขึ้นเนินที่นำไปสู่อารามปานาเกีย กาโลเปตรา ซึ่งทำให้หุบเขาแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมของเกาะโรดส์
15. เซเว่น สปริงส์ (Seven Springs)
เซเว่น สปริงส์ เป็นพื้นที่น้ำผุดที่มีความเงียบสงบ เต็มไปด้วยป่าไม้เขียวขจี และโด่งดัง ทัวร์กรีซ เป็นหนึ่งในสถานที่โรแมนติกที่สุดบนเกาะโรดส์ ตั้งอยู่ระหว่างเมืองโคลิมเปีย (Colympia) กับหมู่บ้านอารชิโปลี (Archipoli)
โตรกธารที่มีความสวยงามแห่งนี้ มีน้ำพุที่ส่องประกายระยิบระยับเจ็ดแห่ง และแม่น้ำสองสามสายซึ่งไม่เคยขาดน้ำเลย ทัวร์กรีซ แม้แต่ในช่วงฤดูร้อนที่ร้อนจัดก็ตาม น้ำผุดทั้งหมดนี้ก่อตัวกลายเป็นทะเลสาบที่ชาวอิตาลีสร้างขึ้น เป็นการชลประทานในที่ราบโคลิมเปียเป็นหลัก นอกเหนือจากสภาพแวดล้อมที่โรแมนติกแล้ว ทัวร์กรีซ ผู้มาเยือนยังชื่นชอบดื่มน้ำที่สดชื่นจากน้ำผุดเหล่านี้อีกด้วย
ผู้มาเยือนครั้งแรกควรเดินไปสู่ทะเลสาบที่ส่องประกายระยิบระยับ ทัวร์กรีซ ซึ่งมีสองทางเลือก คือ เดินบนถนนเหนืออุโมงค์ ที่มีต้นสนขนาดใหญ่โต ที่เปรียบเสมือนลมหายใจของอากาศบริสุทธิ์ กับ เดินทางผ่านอุโมงค์มืดระยะทางยาว 1 กม. ทัวร์กรีซ ซึ่งเพิ่มความน่าตื่นเต้นระหว่างการเดินไปยังจุดหมายที่งดงาม
16. สวนสาธารณะโรดินี่ (Rodini Park)
โรดินี่ พาร์ค เป็นสวนสาธารณะที่สวยงามไร้ที่ติ มีชื่อเสียงในด้านบรรยากาศที่เย็นสบายและเงียบสงบ ทัวร์กรีซ ท่ามกลางอากาศร้อนแห้งของเกาะโรดส์ เป็นสวนสาธารณะที่มีลำธารไหลเชี่ยวท่ามกลางป่าสนไซเปรสและสนอันไพน์ และสวนสัตว์ขนาดเล็ก ทัวร์กรีซ ที่ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองห่างจากในกลางเมืองโรดส์เพียง 3 กม.
สวนสาธารณะโรดินี่ เป็นสวนสาธารณะที่มีการจัดภูมิทัศน์แห่งแรกของโลก ทัวร์กรีซ เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ชาวโรมัน โดดเด่นด้วยทางส่งน้ำโรมันโบราณ (Roman Aqueduct) ทัวร์กรีซ ภายในมีนกยูงจำนวนมากที่อาศัยอยู่ภายในอุทยาน มีทางเดินที่ชัดเจนทอดยาวไปถึงลำธาร ทัวร์กรีซ นอกจากนี้ภายในยังมีสุสานโบราณที่เชื่อกันว่าเป็นสุสานราชวงศ์ทอเลมีของอียิปต์ ที่ถูกขุดลงไปในหิน หลุมฝังศพมีอายุย้อนไปในยุคกรีกโบราณและโดดเด่นด้วยเสาครึ่งคอลัมน์สถาปัตยกรรมดอริคอย่างชัดเจน 21 ต้น
