ทัวร์อียิปต์ : วิหารแห่งคอม อมโบ Temple of Kom Ombo

ทัวร์อียิปต์

ทัวร์อียิปต์ : วิหารแห่งคอม อมโบ Temple of Kom Ombo

ทัวร์อียิปต์ : วิหารแห่งคอม อมโบ Temple of Kom Ombo

เป็นวิหารโบราณที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไนล์ฝั่งตะวันออก ในเมืองคอม อมโบ ถูกสร้างขึ้นในยุคราชวงศ์ทอเลมี (ระหว่าง 180-47 ปีก่อนคริสตกาล) ด้วยสถาปัตยกรรมแบบเกรโค-โรมัน โดยส่วนขยายเพิ่มเติมถูกสร้างขึ้นภายหลังในช่วงยุคโรมัน เป็นหนึ่งโบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่โปรแกรมล่องเรือแม่น้ำไนล์ต้องแวะชมวิหารแห่งนี้

เมืองคอม อมโบ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่รายล้อมด้วยทุ่งอ้อยและข้าวโพด เป็นเมืองเกษตรกรรมและเป็นถิ่นอาศัยของชาวนูเบียที่ต้องพลัดถิ่นจากแม่น้ำไนล์ท่วมหลังการสร้างเขื่อนอัสวาน โดยบ้านเกิดของพวกเขาได้จมหายอยู่ใต้ทะเลสาบนัสเซอร์ 

คำว่า “คอม Kom” ในภาษาอาหรับ มีความหมายว่า เนินเขาเล็ก ๆ ส่วนคำว่า “อมโบ Ombo”ในภาษาอียิปต์โบราณ มาจากคำว่า “Nbty” ของฟาโรห์ ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์ ซึ่งมาจากคำว่า เนโบ Nebo  ที่แปลว่า ทองคำ ในช่วงสมัยคอปติก ต่อไม่ได้เพี้ยนเป็น “เอ็นโบ Enbo” และเมื่อศาสนาอิสลามกลายเป็นศาสนาหลักของอียิปต์ คำนี้จึงกลายเป็น อมโบ Ombo ในภาษาอาหรับในที่สุด ดังนั้น “คอม อมโบ Kom Ombo” จึงมีความหมายว่า เนินเขาทองคำ 

ประวัติเมืองคอม อมโบ

แม้ปัจจุบันเมืองคอม อมโบ เป็นที่รู้จักในด้านสิ่งก่อสร้างในยุคกรีก-โรมัน แต่พื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นถิ่นอาศัยของมนุษย์ตั้งแต่ยุคก่อนราชวงศ์ในประวัติศาสตร์อียิปต์ ซึ่งมีการค้นพบสถานที่ฝังศพโบราณหลายแห่งในเมืองและพื้นที่โดยรอบ 

ในยุคทอเลมีปกครองอียิปต์ ได้มีการสร้างค่ายทหารหลายแห่งใกล้กับทะเลแดง ซึ่งเป็นการส่งเสริมการค้าระหว่างเมืองในแม่น้ำไนล์และค่ายทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ายคอม อมโบ ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนของกองคาราวานการค้าจำนวนมาก

เมื่อชาวโรมันเข้าปกครองอียิปต์ ส่งผลให้เมืองคอม อมโบ เจริญรุ่งเรืองและกลายเป็นศูนย์กลางการปกครองจังหวัด และวิหารคอม อมโบ ที่ตั้งอยู่ในเมืองก็ได้รับการบูรณะและปรับปรุงใหม่ด้วยเช่นกัน

การก่อสร้างวิหาร The Construction of the Temple

วิหารแห่งคอม อมโบ สร้างขึ้นโดยฟาโรห์หญิงแฮตเซปซุต ผู้ปกครององค์ที่ 5 (เป็นราชินีของฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 2 ผู้ปกครององค์ที่ 4) ในราชวงศ์ที่ 18 (ปกครองระหว่าง 1479-1458 ปีก่อนคริสตกาล) และฟาโรห์เมนเคเปอร์เร ทุตโมซิส ที่ 3 แห่งราชวงศ์ที่ 18 (ปกครองระหว่าง 1479-1425 ปีก่อนคริสตกาล) บนซากปรักหักพังของ “วิหารเบอร์ โซเบก Ber Sobek”เดิม ซึ่งเป็นที่ประทับขององค์เทพโซเบค

เทพโซเบก Sobek Deity เป็นเทพแห่งการคุ้มครอง ไม่ฝักไฝ่ฝ่ายใด ความอุดมสมบูรณ์ และความกล้าหาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นเทพที่ป้องกันภัยอันตรายจากแม่น้ำไนล์ และเกี่ยวข้องกับอำนาจของฟาโรห์ (เชื่อว่าเทพโซเบกกลับชาติมาเกิดเป็นฟาโรห์) โดยเทพองค์นี้จะมีร่างเป็นมนุษย์และมีเศียรเป็นจระเข้

พื้นที่ส่วนใหญ่ของวิหารแห่งคอม อมโบ รวมทั้งห้องโถงไฮโปสไตล์ สร้างขึ้นระหว่าง 81-96 ปีก่อนคริสตกาล ในรัชสมัยจักรพรรดิโรมัน ทิเบอริอุส จูเลียส ซีซาร์ ออกุสตุส หลังจากนั้นงานพิธีกรรมต่างๆ ของวิหารคอม อมโบ ดำเนินต่อเนื่องมาอีกกว่า 400 ปี ในช่วงการปกครองของจักรพรรดิมาคัส ออเรลิอุส อันโตนิอุส (ปกครองระหว่างปี ค.ศ. 198-217) และจักรพรรดิมาคัส โอเปลลิอุส มาครินุส (ปกครองระหว่างปี ค.ศ. 217-218) จนถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 3

การออกแบบวิหาร The Design of the Temple

เหล่าฟาโรห์ทอเลได้สร้าง วิหารคอม อมโบ เพื่อบูชาเทพเจ้าสององค์ คือ เทพโซเบก ซึ่งเป็นองค์เทพแห่งจระเข้ และเทพฮอรัส ซึ่งเป็นองค์เทพแห่งนกเหยี่ยว ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีการสร้างวิหารคู่ ที่ใช้โครงสร้างที่มีองค์ประกอบตามศาสนประเพณีดั้งเดิมของอียิปต์โบราณอยู่ในทั้งสองวิหาร

วิหารแห่งคอม อมโบ สร้างด้วยหินปูนเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยมีแผนผังและการออกแบบที่ค่อนข้างคล้ายกับวิหารหลายๆ แห่งที่สร้างในอียิปต์ยุคกรีก-โรมัน ดังเช่น กลุ่มวิหารเดนดารา ทางตอนใต้ของเมืองอบีดอส ในอียิปต์เหนือ และวิหารแห่งฟิเล ในทะเลสาบนาสเซอร์ ซึ่งถือเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญที่สุดในอียิปต์บน และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้าเยี่ยมชมเป็นประจำทุกปี

การออกแบบวิหารแห่งคอม อมโบ เริ่มต้นด้วยลานด้านหน้า โถงไฮโปสไตล์ ตามด้วยโถงภายในสามแห่ง จากนั้นเป็นวิหารหลักของเทพโซเบกและเทพฮอรัส ด้านข้างของห้องโถงด้านในมีห้องเจ็ดคูหาและห้องเล็กๆ อีกจำนวนมากที่ใช้สำหรับพิธีกรรมและวัตถุประสงค์ต่างๆ

คำอธิบายส่วนต่างๆ ของวิหาร The Description of the Temple

ชุดบันไดจากพื้นดินไปยังประตูวิหาร เป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ทำจากหินบล็อก ด้านหน้าของวิหารคอม อมโบมีงานแกะสลักบนผนังที่งดงาม แสดงภาพของเหล่าฟาโรห์ทอเลมีที่สามารถเอาชนะศัตรูและถวายเครื่องบูชาแด่องค์เทพ 

ผ่านจากประตูวิหารจะเป็นโถงไฮโปสไตล์ ที่สร้างขึ้นในสมัยโรมันซึ่งส่วนใหญ่ทรุดโทรมและหักพังไปตามกาลเวลา ลานของวิหารประกอบด้วยพื้นที่โล่งรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีเสาสิบหกต้นล้อมรอบลานจากสามทิศทาง ปัจจุบันเหลือเพียงฐานเสาให้ได้ชม ที่น่าสนใจคือ ยอดเสาบางต้นได้แสดงภาพตัวอักษรพิมพ์ใหญ่

ผ่านลานภายในเป็นโถงด้านในห้องแรกที่สร้างขึ้นในสมัยการปกครองของฟาโรห์ทอเลมีที่ 12 โดยทางทิศตะวันออกของห้องโถงนี้ มีภาพเหมือนของฟาโรห์ทอเลมีหลายพระองค์ ที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์โดยเทพโซเบกและเทพฮอรัส ซึ่งเป็นฉากที่จะพบได้ในวิหารอื่นๆ เช่น วิหารแห่งเอ็ดฟู และกลุ่มวิหารแห่งฟิเล 

โถงด้านในของวิหารคอม อมโบ มีการออกแบบให้คล้ายกับโถงด้านนอน แต่เสาของห้องค่อนข้าสั้นกว่า และแกนของเสาหินเหล่านี้มีรูปร่างเหมือนดอกบัว ซึ่งเป็นหนึ่งในพืชสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในอียิปต์โบราณ

วิหารแห่งคอม อมโบ มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดสองแห่งที่อุทิศถวายแด่องค์เทพทั้งสอง ประกอบด้วยห้องโถงสี่เหลี่ยมสองห้องที่คล้ายกัน ซึ่งคิดว่าเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดที่สร้างขึ้นภายในวิหาร เนื่องจากสร้างขึ้นในรัชสมัยของฟาโรห์ทอเลมีที่ 6

จุดที่ตั้งแรกสุดของวิหารแห่งคอม อมโบ อยู่ในส่วนตะวันออกเฉียงใต้ของอาคาร และสร้างขึ้นในช่วงรัชสมัยของฟาโรห์ทอเลมีที่ 7 ซึ่งโครงสร้างนี้ประกอบด้วยลานด้านนอกที่นำไปสู่โถงไฮโปสไตล์ด้านหน้า ที่นำไปสู่โถงอีกสองแห่งซึ่งใช้ประกอบพิธีกรรมการประสูติของโอรสแห่งทวยเทพ

วิหารน้อยแห่งฮาธอร์ The Chapel of Hathor

ตั้งอยู่ส่วนตะวันออกเฉียงเหนือของวิหารคอม อมโบ และประกอบด้วยโบสถ์รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่สร้างขึ้นสูงกว่าพื้นดิน ซึ่งเข้าถึงได้ด้วยการปีนบันได ตัววิหารน้อยมีขนาดความยาว 5 ม. และกว้าง 3 ม.

ภายในวิหารน้อยแห่งฮาธอร์มีห้องกระจกสามห้อง ที่จัดแสดงมัมมี่จระเข้สามตัวซึ่งเป็นตัวแทนขององค์เทพโซเบก ด้านหน้าวิหารน้อยมีภาพเหมือนขององค์เทพฮาธอร์นั่งอยู่หน้าทางเข้า

เครื่องวัดความใสและระดับของแม่น้ำไนล์ The Nilometer

ในส่วนตะวันตกเฉียงเหนือของวิหารมีบ่อน้ำทรงกลม ที่ใช้เป็นเครื่องวัดความใสของแม่น้ำไนล์และระดับน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากประจำปีของชาวอียิปต์โบราณ คล้ายกับที่เกาะโรฮ์ดาในกรุงไคโร

ไนโลมีเตอร์ Nilometer นี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยโรมัน และเชื่อมเข้ากับบ่อน้ำขนาดเล็กกว่า โดยไนโลมีเตอร์มีความสำคัญเป็นพิเศษในช่วงฤดูน้ำท่วมของแม่น้ำไนล์

วิหารน้อยแห่งโซเบก The Chapel of Sobek

ตั้งอยู่ส่วนตะวันออกเฉียงเหนือของวิหารแห่งคอม อมโบ เป็นวิหารขนาดเล็กสไตล์โรมันที่อุทิศถวายแด่องค์เทพโซเบก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 3 โดยมีภาพสลักของจักรพรรดิมาคัส ออเรลิอุส อันโตนิอุส หรือจักรพรรดิคาราเคลล่า ปรากฏอยู่บนเสาสองต้นใกล้กับทางเข้าวิหารน้อย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเทพโซเบกที่ชาวอียิปต์จำนวนมากบูชาในสมัยทอเลมีแล้วชาวโรมันก็นับถือศรัทธาด้วยเช่นกัน ด้านในของกำแพงด้านหลังของวิหารน้อย เป็นภาพสลักที่น่าทึ่งด้วยภาพประกอบของเครื่องมือแพทย์และศัลยกรรมชิ้นแรก ที่กำลังถวายแด่องค์เทพที่ประทับนั่ง โดยมีมีดผ่าตัด หมวกดูด เลื่อยกระดูก และเครื่องมือทันตกรรมอายุกว่า 2,000 ปี

Scroll to Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า